EN | TH

CHAPTER 1 | Greaw-Grard

เกรี้ยวกราด 2022

ประสบการณ์บนเส้นทางสาย sartorial ที่แบรนด์สั่งสมมามากกว่า 7 ปีนั้นเสริมสร้างออกมาเป็นแรงบันดาลใจให้แบรนด์สามารถถ่ายทอดและสื่อสารออกมาเป็นภาษาสูทที่ขบถในสไตล์ของ Urban Dude ได้อย่างมีเอกลักษณ์

คอลเล็กชันนี้เราเล่าประสบการณ์ผ่านหนี่งในตำนานที่เป็นไอคอนของวงการอย่าง พี่น้อย วงพรู นอกจากคาแรคเตอร์ที่โคตรจะใช่กับแบรนด์แล้ว  สิ่งที่ทำให้แบรนด์เลือกพี่น้อยมาเป็นแบบนั้นก็คือ สรีระของพี่น้อย ด้วยความที่พี่น้อยเป็นคนที่มีรูปร่างสันทัดแต่แน่นไปด้วยกล้ามเนื้อ พร้อมทั้งไหล่ที่ลาดสวย ยิ่งผสานกับโครงสร้างสูทของแบรนด์และสื่อสารความเป็นสูทขบถออกมาได้เป็นอย่างดี

ทั้งหมดทั้งมวลนี้แบรนด์มองเห็นว่าทั้งรูปร่างและบุคลิกของพี่น้อย ตอบรับกับอุดมคติของแบรนด์ได้อย่างไม่มีที่ติ ยิ่งส่งให้คอลเล็กชันเกรี้ยวกราดนี้เป็นชิ้นงานที่สะท้อนตัวตนของแบรนด์ Urban Dude ได้ชัดเจนและลงตัวที่สุดตั้งแต่แบรนด์ทำมา

GREAW-GRARD Collection

1. The Prince of Wales Flannel

ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Duke of Windsor หรือ King Edward VIII ของสหราชอาณาจักร พระองค์เป็นแฟชั่นไอคอนนิคแห่งวงการ sartorial ตั้งแต่ปี 1930 แบรนด์ Urban Dude ชอบความกล้าที่จะแหวกขนบธรรมเนียมและดึงตัวตนของพระองค์ให้สะท้อนออกมาผ่านเครื่องแต่งกายที่พระองค์ทรงออกแบบเองและเลือกจะให้เป็นแบบนั้นเสมอมา เหมือนคำที่พระองค์เคยตรัสไว้ว่า “Clothes do make the prince, at least in the eyes of the people” หรือที่แปลได้ว่า “เสื้อผ้าช่วยสร้างเจ้าชายในสายตาของประชาชน” ดังนั้นด้วยความที่ทางแบรนด์ชื่นชอบและเคารพในความกล้าที่จะแตกต่างของพระองค์จึงได้ไอเดียดีไซน์สูทชุดนี้ขึ้นมา

ด้วยความชิคของคิงเอ็ดเวิร์ดที่ 8 ทางแบรนด์เลยเลือกผ้า Prince of Wales จากแบรนด์ Vitale Barberis Canonico ที่เป็นชื่อของพระองค์มาใช้เลย ตัวผ้าเป็นสักหลาดอ่อนสีน้ำตาลเทาพาดผ่านด้วยเส้นตารางสีแดงเขือง ที่นอกจากลายผ้าจะดูเตะตาไม่เข้ากับบริบทของการใส่สูทในบ้านเรา แถมยังมีอากาศที่โคตรร้อนของเมืองไทยแล้ว ลุคนี้จัดได้ว่าขบถเป็นที่ 1 เลย ทางแบรนด์ยังจัดลุคนี้ให้เป็นแบบ 3 piece suit ที่โคตรจะพิเศษตรงเสื้อกั๊กด้านในที่ทำให้ลุคนี้ดูซับซ้อนน่าหลงใหลยิ่งขึ้น ด้วยการตัดเย็บแบบต่อลายผ้าทั้งตัวจะช่วยดึงดีเทลของลายผ้าให้ดูโดดเด่นสำหรับผู้ใส่อีกด้วย

ถ้าให้พูดตรง ๆ ลุคนี้ก็เหมาะสำหรับสุภาพบุรุษที่หลงใหลในสูทยุคเก่าที่อาจจะเกิดช้าเกินไปหน่อย แต่ก็ควรมีเอาไว้ใส่เสริมความเก๋า เป็นสูทที่ทำให้สุภาพบุรุษทั้งหลายใส่แล้วดูดีมีสไตล์ ใส่แล้วต้องเพิ่มฟิลลิ่งด้วยการนั่งชิวจิบซิงเกิ้ลมอลต์เบาๆ จะให้ฟิลเหมือนกับนั่งอยู่ในไอริชผับยังไงยังงั้น

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
previous arrow
next arrow

2. The Midnight Blue Pinstripe

เป็นที่รับรู้กันอยู่แล้วว่า Pinstripe คือ power suit เป็นสูทที่ให้พลัง มีความบอสซี่  ให้อารมณ์ของความเป็นแก๊งสเตอร์อย่างชัดเจน ตรงไปตรงมา เป็นหนึ่งในสูทแบบต้นแบบ ที่ทางแบรนด์มักจะเชียร์ให้ลูกค้าที่ต้องการใส่สูทสไตล์อิตาเลี่ยน เรียกได้ว่า Pinstripe เป็นหนึ่งใน signature ของ Urban Dude ที่แสดงความเกรี๊ยวกราดอย่างออกรสชาติที่สุดลุคนึงเลยก็ว่าได้

ทาง Urban Dude เลือกใช้ผ้าจากแบรนด์ Drago นำเข้าจากประเทศอิตาลี เป็นผ้าขนสัตว์ลายริ้วสีขาว ตัวสูทเป็นทรง double breasted กระดุมสองแถวที่กิมมิคเป็นกระดุมโลหะลายหัวม้า ออกแบบปกแหลมกว้างให้มีขนาดถึง 4 นิ้ว ซึ่งเป็นจุดเด่นของสูทสไตล์อิตาเลี่ยน เสริมด้วยดีเทลเล็กๆ  อย่างเช่น กระเป๋า Ticket Pocket หรือทางแบรนด์ตั้งใจเรียกกระเป๋านี้ว่า Airpod Pocket ที่สามารถใส่ Airpod ทุกรุ่นได้อย่างพอดีเป๊ะ ปรับเปลี่ยนการใช้งานให้เหมาะสมกับไลฟ์สไตล์ นักธุรกิจในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี

ต้องยอมรับเลยว่าลุคนี้ก็เหมาะสำหรับหนุ่ม ๆ นักธุรกิจ นักลงทุน เจ้าของธุรกิจ แม้กระทั้งหนุ่มออฟฟิศที่กำลังมองหาสูทที่เสริมสร้างความมั่นใจ ปรับบุคลิก ใส่แล้วทรงพลัง พร้อมที่จะปิดดีลสำคัญใหญ่ ๆ ได้อย่างสมบูรณ์แบบเลยทีเดียว

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
previous arrow
next arrow

3. The Olive Clover 

คือสูทที่คนอาจจะคิดว่ามันธรรมดา แต่มีความไม่ธรรมดาที่ซ่อนอยู่ในทุกดีเทลของลุคนี้  ชื่อ Olive Clover ไม่ได้มาด้วยความบังเอิญ ทางแบรนด์ตั้งใจดีไซน์สูทชุดนี้จากสัญลักษณ์ที่แทนความโชคดีของชาวไอริชนั้นคือดอก Clover ที่โด่งดังไปทั่วโลก ดอก Clover ที่ดูธรรมดาแต่มีความหมายไม่ธรรมดา จึงเป็นแบบในการดีไซน์ The Olive Clover ให้แสบสัน โดดเด่น และไม่ธรรมดา

สำหรับความพิเศษของ The Olive Clover ก็ต้องพูดถึงเส้นโค้งที่พาดผ่านทุกจุดของตัวสูท ไม่ว่าจะเป็นปก Notch (ปกป้าน) ที่อาจจะดูธรรมดา แต่สำหรับ Urban Dude ทางแบรนด์เลือกสร้างกิมมิคด้วยการตัดปกป้านเป็นทรงดอก Clover เสริมทัพด้วยการใช้เส้นโค้งดอก Clover ให้รับกับทรงโค้งของกระเป๋าปะ เป็นอีกหนึ่งลุคที่แบรนด์เลือกใช้ผ้าจากแบรนด์ Drago สีครีมอมเขียวมะกอก ตัดกับเชิ้ตสีม่วงลายเสือจากัวร์ ทำให้ลุคนี้ภายนอกดูเรียบหรู แต่ภายในมีความเผ็ดร้อน เอาจริงผู้ชายก็แรดได้แหละ

บอกได้เลยลุคนี้ก็ไปตอบโจทย์กับผู้ชายที่คลั่งไคล้ความคลาสสิกที่มองผิวเผินอาจจะมองเป็นคนที่ดูเนี๊ยบ แต่ความจริงเป็นคนที่มีความแสบสันที่ซ่อนอยู่ภายใน

1
2
3
4
5
previous arrow
next arrow

4. The Dove Grey Tuxedo

Black Tie ชุดนี้เราตั้งใจฉีกกฎความจำเจของชุดทักซิโดว่าต้องเป็นสีดำหรือสีขาว ทางแบรนด์จึงเลือกสี “Dove Gray” สีเทาแผงอกนกพิราบมาให้เป็นตัวชูโรงของลุคนี้ โดยยังคงอัตลักษณ์ของความเป็นทางการไว้ทุกกระเบียดของการตัดเย็บ

เป็นอีกหนึ่งลุคที่เราเลือกใช้ผ้าอิตาลี จากแบรนด์ Vitale Barberis Canonico (เติบโตมากับแบรนด์นี้) สำหรับตัวเสื้อแจ็คเก็ตเราเลือกใช้ผ้า Worsted Wool ส่วนกางเกงตัดด้วยผ้า Mohair  สีดำสนิทที่มีความพิเศษตรงความแน่นของเนื้อผ้าที่ทำให้กางเกงทิ้งตัวสวยตอบรับกับตัวแจ็คเก็ตได้เป็นอย่างดี เราใช้ Bow Tie ของแบรนด์ Serafine Silk เป็นแบรนด์พาร์ทเนอร์จากอิตาลี สำหรับตัวเสื้อเชิ้ตเป็นผ้าซาตินประดับด้วยกระดุมมุก 4 เม็ดบน ตามแบบฉบับความคลาสสิกของ Black Tie ทั้งยังรับกับกระดุมมุกที่แขนเบิ้ลของตัวเสื้อเชิ้ตได้อย่างพอดิบพอดี 

ลุคนี้สำหรับใส่ออกงานสำคัญต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นงานแต่งงาน งานกาล่าไนท์  งานเย็นที่มีความเป็นทางการ Urban Dude มั่นใจว่าคุณสุภาพบุรุษที่ใส่ชุดนี้แล้ว จะทำให้คุณดูโดดเด่นสะดุดตา out of the  crowd เป็นชุดที่คุณสุภาพบุรุษไม่ควรพลาด ต้องลองใส่สักครั้งให้ได้ในชีวิต

1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
previous arrow
next arrow

เราใช้คุกกี้เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพ โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน นโยบายความเป็นส่วนตัว

Privacy Preferences

คุณสามารถเลือกการตั้งค่าคุกกี้โดยเปิด/ปิด คุกกี้ในแต่ละประเภทได้ตามความต้องการ ยกเว้น คุกกี้ที่จำเป็น

Allow All
Manage Consent Preferences
  • Always Active

Save